ป่วยกายป่วยใจ จากภัยโรคคิดไปเอง (ชีวจิต)
ไฮโปคอนดิเอซีด (Hypochondriasis) เป็นโรคจิตเวชชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการหมกมุ่นในเรื่องสุขภาพของตัวเองเกินไป กลัวอยู่ตลอดเวลาว่า จะป่วยเป็นโรคร้ายแรง หรือมีโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคไต เอดส์ ไมเกรน โรคหัวใจ โรคปอด เป็นต้น แฝงอยู่
ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าอวัยวะภายในร่างกาย โดยเฉพาะที่ศีรษะ คอ ท้อง และหน้าอกทำงานผิดปกติไปจากเดิม ทั้งที่จริง ๆแล้วความเจ็บป่วยอาจจะไม่มีอยู่จริง หรืออาจจะมีแต่เล็กน้อยไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เช่น มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม มึนงง ปวดศีรษะ ท้องอืด ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น แต่ผู้ป่วยจะจับอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ของร่างกายมาคิดเป็นเรื่องใหญ่โต และไปหาแพทย์เพื่อขอรับการรักษา
อาการทั้งหมดนี้เป็นความผิดปกติทางจิตเวชอย่างหนึ่ง ผู้ป่วยไม่ได้แกล้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนใกล้ชิดแต่อย่างใด เขารู้สึกว่าตัวเองปวดจริงๆ แต่ว่าสาเหตุที่ทำให้ปวดไม่มีจริง เหมือนคนไข้บอกหมอว่า ได้ยินเสียงแว่วๆ หมอก็บอกว่า หมอเชื่อว่าคุณได้ยินจริงๆ แต่เสียงนั้นไม่มีอยู่จริง
“คนไข้กลุ่มนี้ มักไปพบแพทย์หลายแห่ง ตรวจหลายอย่าง แต่แม้จะได้การยืนยันจากแพทย์แล้วว่า ไม่พบโรคหรือความผิดปกติใด ๆ แต่ผู้ป่วยจะยังเชื่อว่า ตนป่วยเป็นโรคที่แพทย์ยังตรวจไม่พบอยู่อีก”
“คนไข้กลุ่มนี้ มักไปพบแพทย์หลายแห่ง ตรวจหลายอย่าง แต่แม้จะได้การยืนยันจากแพทย์แล้วว่า ไม่พบโรคหรือความผิดปกติใด ๆ แต่ผู้ป่วยจะยังเชื่อว่า ตนป่วยเป็นโรคที่แพทย์ยังตรวจไม่พบอยู่อีก”
สังเกตโรคสังเกตอาการหากสังเกตตัวเอง และคนรอบข้างพบว่า มีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ให้รู้ไว้เลยว่า มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีดค่อนข้างสูง
1. มีความคิด หรือหมกมุ่นอยู่กับความกลัวว่าตนเองจะป่วยด้วยโรคร้ายแรงอยู่ตลอดเวลา
2. ความรู้สึกกังวลไม่หายไป แม้จะได้รับการตรวจรักษาอย่างละเอียด และได้รับการยืนยันจากแพทย์แล้วว่าไม่พบโรคนั้นแล้วก็ตาม
3. ความรู้สึกนี้ ส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมาน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ การงานเริ่มบกพร่อง ญาติพี่น้องเอือมระอา มีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าสังคมเป็นมานานติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน และมีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งกลัวยิ่งเป็นโรคคิดไปเอง
1. เกิดจากการแปลความรู้สึกของร่างกายผิด เมื่อมีความผิดปกติของการทำงานในร่างกายเกิดขึ้น คนไข้กลุ่มนี้มักแปลความหมายของความผิดปกตินั้นร้ายแรงมากกว่าคนทั่วไป รวมไปถึงมีความอดทนต่อความรู้สึกไม่ปกติของร่างกายต่ำกว่าคนปกติ
1. มีความคิด หรือหมกมุ่นอยู่กับความกลัวว่าตนเองจะป่วยด้วยโรคร้ายแรงอยู่ตลอดเวลา
2. ความรู้สึกกังวลไม่หายไป แม้จะได้รับการตรวจรักษาอย่างละเอียด และได้รับการยืนยันจากแพทย์แล้วว่าไม่พบโรคนั้นแล้วก็ตาม
3. ความรู้สึกนี้ ส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมาน ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ การงานเริ่มบกพร่อง ญาติพี่น้องเอือมระอา มีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าสังคมเป็นมานานติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน และมีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งกลัวยิ่งเป็นโรคคิดไปเอง
1. เกิดจากการแปลความรู้สึกของร่างกายผิด เมื่อมีความผิดปกติของการทำงานในร่างกายเกิดขึ้น คนไข้กลุ่มนี้มักแปลความหมายของความผิดปกตินั้นร้ายแรงมากกว่าคนทั่วไป รวมไปถึงมีความอดทนต่อความรู้สึกไม่ปกติของร่างกายต่ำกว่าคนปกติ
2. เกิดจากการใช้บทบาทของผู้ป่วย (Sick role) เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาหรือสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้ ผู้ป่วยจะเรียนรู้ที่จะใช้บทบาทผู้ป่วยเพื่อเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นั้นๆ
3. เกิดจากโรคแทรกซ้อนทางจิตวิทยาอื่นๆ เช่น โรคซึมเศร้า เครียด โรคกังวลไปทั่ว แต่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว จึงแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่ถูก และคิดว่าตัวเองป่วย
4. เกิดจากความกดดันบางอย่าง เชื่อว่าผู้ป่วยขาดความภูมิใจในตนเอง และรู้สึกว่าไม่ได้รับการยอมรับ มีความผิดหวัง จึงใช้กลไกทางจิตชนิดที่เรียกว่าเก็บกด แสดงออกมาเป็นอาการผิดปกติทางกาย เพื่อปกปิดสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ
ตรวจสุขภาพกาย+ใจใช่หรือไม่โรคคิดไปเอง
อย่างไรก็ตามคนไข้ที่มาพบหมอด้วยอาการในขั้นต้น อาจไม่ได้เป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีดทุกคน ซึ่งก่อนที่เราจะสรุปว่าเขาเป็นโรคนี้หรือไม่ เราต้องมีการวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุก่อน โดยมีแนวทางวินิจฉัยสองขั้นตอนคือ
วินิจฉัยแยกโรคทางกาย สามารถตรวจได้จากเครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น โรคเอดส์ โรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคผิดปกติทางต่อมไร้ท่อ โรคเอสแอลอี เป็นต้น
“ปกติคนไข้พวกนี้จะยินดีให้ความร่วมมือ เพราะเขาเองชอบมาโรงพยาบาลอยู่แล้ว จนเมื่อตรวจอย่างละเอียดแล้วไม่พบว่าป่วยเป็นโรคอะไร ก็จะนำผู้ป่วยเข้าสู่การตรวจวินิจฉัยทางจิตเวชเป็นลำดับต่อไป”
วินิจฉัยโรคทางจิตเวชอื่น ๆ บางทีคนไข้ที่มาหาหมอ อาจเป็นโรคอื่นๆที่ไม่ใช่โรคไฮโปคอนดิเอซีด อาจเป็นโรคซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล รวมถึงโรคจิตเภทชนิดอื่น ๆ ซึ่งสามารถ รักษาได้โดยการใช้ยา แต่เมื่อตรวจจนแน่ใจแล้วว่า คนไข้ไม่ได้ป่วยด้วยโรคจิตเวชชนิดอื่น ๆ อย่างที่กล่าวมา เราจึงวินิจฉัยว่า คนไข้ป่วยเป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีด ซึ่งโรคนี้รักษาไม่หาย
เหตุผลที่โรคนี้รักษาไม่หาย เป็นเพราะคนไข้ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วยเป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีด แต่คิดว่าตัวเองป่วยด้วยโรคทางกายอื่นๆ จึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรักษา นอกจากนี้คนที่เป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีดมักมีการตอบสนองต่อการใช้ยาไม่ค่อยดี เนื่องจากเขาไม่ยอมรับ อย่างคนไข้บางคนที่เป็นโรคนี้ และมีความรู้มาก ศึกษามาเยอะ ก็จะต่อต้านการรักษาของหมอ
เหตุผลที่โรคนี้รักษาไม่หาย เป็นเพราะคนไข้ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วยเป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีด แต่คิดว่าตัวเองป่วยด้วยโรคทางกายอื่นๆ จึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรักษา นอกจากนี้คนที่เป็นโรคไฮโปคอนดิเอซีดมักมีการตอบสนองต่อการใช้ยาไม่ค่อยดี เนื่องจากเขาไม่ยอมรับ อย่างคนไข้บางคนที่เป็นโรคนี้ และมีความรู้มาก ศึกษามาเยอะ ก็จะต่อต้านการรักษาของหมอ
สารพัดวิธีดูแลผู้ป่วยใกล้ตัว
แนวทางในการรักษาของแพทย์ที่ใช้รักษาโรคโรคไฮโปคอนดิเอซีดในปัจจุบันคือ การรักษาแบบจิตบำบัด โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเครียดของผู้ป่วยเป็นหลัก เพื่อให้เขาสามารถปรับตัว ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีคุณภาพ และเหมาะสม ไม่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองจนมากเกินไป
ความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องมาพบจิตแพทย์ก็ได้ แต่แค่ให้มีหมอสักคนคือหมอเวชปฏิบัติทั่วไปก็ได้ คอยรับฟังเขาพูดเรื่องความป่วยไข้อย่างน้อยเดือนละครั้ง และคอยปรามเวลาเขาจะขอตรวจพิเศษต่างๆที่ไม่จำเป็น คล้ายกับว่าพยายามใส่ใจในอาการป่วยของเขา อาการของคนไข้ก็จะทรงตัวไม่ป่วยด้วยโรคอื่นๆเพิ่ม
ความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องมาพบจิตแพทย์ก็ได้ แต่แค่ให้มีหมอสักคนคือหมอเวชปฏิบัติทั่วไปก็ได้ คอยรับฟังเขาพูดเรื่องความป่วยไข้อย่างน้อยเดือนละครั้ง และคอยปรามเวลาเขาจะขอตรวจพิเศษต่างๆที่ไม่จำเป็น คล้ายกับว่าพยายามใส่ใจในอาการป่วยของเขา อาการของคนไข้ก็จะทรงตัวไม่ป่วยด้วยโรคอื่นๆเพิ่ม
สิ่งสำคัญที่ญาติๆผู้ป่วยควรทำความเข้าใจคือ ต้องพยายามเปลี่ยนทัศนคติ จากความรู้สึกรำคาญมาเป็นสงสารแทน เปลี่ยนจากโทสะมาเป็นเมตตา ต้องคิดอยู่ตลอดว่าเขาป่วย เขาต้องการเรา
ดูแลผู้ป่วยโรคคิดไปเองอย่างไรดี
-ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและสดชื่น เช่น รำกระบอง เต้นแอโรบิค เป็นต้น
-ปลูกต้นไม้ การได้เห็นสีเขียวของต้นไม้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และอารมณ์ดีขึ้น
-อ่านหนังสือ เช่น หนังสือธรรมะ หนังสือตลก นิยายที่เนื้อหาไม่หนักเกินไปนัก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้ความเพลิดเพลินแล้วยังได้ความรู้เพิ่มเติมอีก
-ปลูกต้นไม้ การได้เห็นสีเขียวของต้นไม้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และอารมณ์ดีขึ้น
-อ่านหนังสือ เช่น หนังสือธรรมะ หนังสือตลก นิยายที่เนื้อหาไม่หนักเกินไปนัก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้ความเพลิดเพลินแล้วยังได้ความรู้เพิ่มเติมอีก
-หาโอกาสไปเที่ยว การได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศในสถานที่ใหม่ ๆ สามารถลดความวิตกกังวลที่จากเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันที่ตกตะกอนอยู่ในใจ ได้ เช่น ไปทะเล ภูเขา น้ำตก เป็นต้น
-ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว การพูดคุยปรึกษาหารือ ทานอาหารร่วมกัน ก็สามารถช่วยให้ความตึงเครียด วิตกกังวล และโรคซึมเศร้าที่เป็นอยู่ทุเลาลงได้
-ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว การพูดคุยปรึกษาหารือ ทานอาหารร่วมกัน ก็สามารถช่วยให้ความตึงเครียด วิตกกังวล และโรคซึมเศร้าที่เป็นอยู่ทุเลาลงได้
“โรคจิตเภทส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้โดยการทำความเข้าใจกับตนเอง คือ เราต้องมีความหยั่งรู้ในอารมณ์ของตัวเอง เช่น รู้ว่าเวลานี้ตัวเองวิตกกังวลไม่สบายใจ ก็บอกว่าตัวเองวิตกกังวล ไม่โกหกตัวเอง ยิ่งถ้าเรามีความหยั่งรู้ในตัวเอง เราก็จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตเวชน้อยลง”
cr:naarn.com
loading...
****************************************ปลาย******************************* เรียนทั้งหมดของผู้เข้าชมที่รัก! ผมขอบคุณมากสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน! ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อหาเนื้อหาที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดสำหรับทุกท่าน! กรุณามีความโชคดี! จาก Rakthai!!! :)
*******************************************
Health Check: Yes, I think to themselves or disease.
However, patients who come to the doctor with symptoms initially. Maybe not a disease hypochlorite bedroom and skies everyone. Prior to the conclusion that he is or not. We need a thorough diagnosis for the cause first. The second step is the diagnosis.
Physical diagnosis Can be obtained from medical devices, be it AIDS leukemia. Diseases, disorders, endocrine disease, such as LED's.
"Normally, these patients would be willing to cooperate. Because he liked the hospital already. When examined carefully, no matter what illness. It will bring the patient to the psychiatric diagnosis is next. "
Perhaps psychiatric diagnosis other patients come to the doctor. It is not a disease, other diseases hypochlorite bedroom and skies. It may be depression, stress, anxiety and other psychiatric disorders which can be treated by medication. However, when examined to ensure they. Psychiatric patients are not sick with any other of the above. We decided that Patients suffering from hypochlorite bedroom and skies. The disease is incurable
The reason that this disease is incurable. Because the patient did not accept their illness hypochlorite bedroom and skies. But considers himself sick with other physical ailments. He did not cooperate in treatment. Also, people who suffer hypochlorite bedroom and skies are usually respond to drugs very well. Because he does not accept Some patients with this disease. Very knowledgeable and a lot of it against the treatment of a doctor.
How to care for all patients around.
Guidelines for the treatment of doctors who treat the disease hypochlorite bedroom and skies today. Psychodynamic therapy So that he can adapt Living on quality and not suitable preoccupied with their own thoughts too much.
In fact, They do not need to be a psychiatrist. But just to have a doctor who is also general practice doctors. Listen to him talk about the illness at least once a month. And to dissuade him time to request special tests that are not necessary. As if trying to focus on his illness. Patient is not stable patients with other diseases increase.
The important thing to understand is that relatives of patients. To try to change attitudes Feeling annoyed by the poor instead. Changed from anger to compassion Think of all that he had. He wants us
Care of patients thought to myself how nice.
- Exercises to keep the body energized and refreshed, like aerobics or dance club.
- Planting trees to see the green of the trees will help you feel relaxed. And improved mood
- Read books such as novels, comic books, philosophy books that content is not too heavy. This will help to entertain but also educate them further.
- The opportunity to To change the atmosphere in a new place can minimize the anxiety of everyday issues that precipitated in mind, such as the ocean, mountains, and waterfalls.
- Activities with family To discuss Eating together It also keeps the tension, anxiety and depression is mitigated.
"Schizophrenia can largely be prevented by understanding ourselves, we have to be prudent in their own emotions, such as anxiety, knowing that time is itself uncomfortable. I told myself that anxiety. Do not lie to yourself If we had a revelation in itself. We would be at risk of psychiatric disorders is less. "
Post a Comment